ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า ถ้าหากเรามองลูกค้าเป็นเพียงแค่ผู้เสียเงินซื้อสินค้า และบริการจากเราเพียงอย่างเดียว นั่นถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะในหลายๆบริษัทที่ประสบความสำเร็จมองลูกค้ามากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น Facebook มีลูกค้าถึงพันล้านคนโดยประมาณ แต่ลูกค้าเหล่านี้ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าเลย แต่บริษัท Facebook กลับมีรายได้มากมายมหาศาล นั่นก็เพราะลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อนให้สามารถสร้างเงินได้มาก
เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะใช้ข้อมูลในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า ต่างกับ Facebook ที่มีเนื้อหาแบบเรียลไทม์อัพเดตชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างเนื้อหาเองดังเช่นเว็บไซต์ขายสินค้าทั่วไป แต่กลับได้รับความนิยม ดังนั้นหากเราใช้แนวคิดนี้ในการให้ลูกค้าเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายในเว็บไซต์ เว็บไซต์ของเราอาจได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน
การทำธุรกิจผ่านเว็บไซต์ไม่อาจสู้กับธุรกิจรายใหญ่ๆได้ จึงควรหาโอกาสที่จะไปงานอีเวนท์เล็กๆ ต่างๆ เพื่อพบปะพูดคุยและให้ความสำคัญกับลูกค้าที่สนใจแทน เพราะลูกค้าที่สนใจมีความสามารถในการชักชวนมากกว่าเรา ในการชักชวนแบบปากต่อปาก โดยไม่ต้องใช้เงินในการลงทุนเลย
จากผลสำรวจพบว่าสินค้าที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมาจากไอเดียของลูกค้าทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากบริษัทที่กำลังประสบปัญหากับแนวทางการพัฒนาสินค้าและบริการ อาจจะลองพยายามมองหาความช่วยเหลือจากลูกค้าแทนที่จะคิดเองดูบ้าง บางทีอาจจะได้มุมมองไอเดียใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมที่น่าสนใจ
การทำธุรกิจนั้นแต่ละองค์กรย่อมหวังที่สร้างโอกาสให้ตัวเองเพื่อที่จะเข้าถึงลูกค้าทั้งหลาย แต่ความเป็นจริงแล้ว ลูกค้านั้นพร้อมที่จะสร้างเครือข่ายขึ้นมาแต่เป็นเครือข่ายของลูกค้าด้วยกันเองมากกว่า เราทำได้คือการเป็นตัวกลางของเครือข่ายที่จะช่วยเชื่อมให้ชุมชนของลูกค้าเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นมาต่างหาก เมื่อมีลูกค้าคนใดคนหนึ่งเกิดรู้สึกประทับใจกับสินค้าหรือบริการของเราขึ้นมา เขาก็จะพร้อมที่จะบอกต่อความประทับใจต่อไปยังเพื่อนๆ ในเครือข่ายลูกค้า
จากที่กล่าวมาพิสูจน์ได้ว่าเงินที่ได้จากลูกค้าไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไป แต่เป็นการที่ลูกค้าช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร ซึ่งสิ่งนี้ช่วยทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่านำเงินไปลงทุนทำแผนการตลาดอื่นๆแน่นอน